GMP การซ่อมบำรุงและสุขาภิบาลโรงงาน
การซ่อมบำรุงและสุขาภิบาลโรงงาน
6.1 การซ่อมบำรุงและทำความสะอาด
6.1.1 ทั่วไป
มีการดูแลซ่อมแซมรักษาสถานที่ประกอบการและเครื่องมือ เพื่อเอื้ออำนวย ต่อวิธีปฏิบัติด้านสุขาภิบาล
- ทำงานได้ตามต้องการ โดยเฉพาะขั้นตอนวิกฤต
- ป้องกันการปนเปื้อนกับอาหาร เช่น เศษโลหะชิ้นส่วนของพลาสติก สารเคมี
การบำรุงรักษา (Maintenance)
- บำรุงรักษาตามแผนที่กำหนด
- บันทึกผลการทำงาน และประวัติเครื่องจักร
- วิธีการบำรุงรักษา
- ข้อควรระวังเมื่อเข้าทำการบำรุงรักษา
6.1.2 ขั้นตอนและวิธีการทำความสะอาด.
- การขจัดคราบ/เศษสิ่งสกปรกออกจากผิวหน้า
- การใช้สารทำความสะอาด
- ชะล้างด้วยน้ำ
- การทำความสะอาดแบบแห้ง
- ณ ที่จำเป็น ทำการฆ่าเชื้อ
6.2 การทำความสะอาด และการฆ่าเชื้อ
Cleaning and Sanitizing
เป็นกิจกรรมที่สำคัญในการผลิตอาหารซึ่งมีผลต่อคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์อาหารที่โรงงานผลิตออก มาการออกแบบโรงงาน เครื่องจักรและอุปกรณ์การผลิตให้ถูกสุขลักษณะ ง่ายต่อการทำความสะอาด การฆ่าเชื้อ และ การบำรุงรักษา
การทำความสะอาด และการฆ่าเชื้อ Cleaning and Sanitizing
ต้องมีแผน และโปรแกรม
- ครอบคลุมพื้นที่ และอุปกรณ์เครื่อง
- วิธีการทำความสะอาด
- ความถี่ที่เหมาะสม
- การตรวจสอบ ผู้รับผิดชอบ
- เอกสารและบันทึก
รวมทั้งมีการตรวจติดตามความสะอาดของ เครื่องจักร อุปกรณ์ ในการผลิต รวมถึงมือพนักงานและการทวนสอบ
การซ่อมบำรุงและสุขาภิบาลโรงงาน
6.2 โปรแกรมการทำความสะอาด
- อาคาร
- เครื่องจักร
- อุปกรณ์ เช่น มีด เขียง
- ภาชนะบรรจุ
- รถเข็น
- พาเลท
การทำความสะอาด (Cleaning)หมายถึง กระบวนการกำจัดคราบและสิ่งสกปรกออกจากผิวหน้า และเป็นการป้องกันการ สะสมของเศษอาหารที่อาจจะเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค หรือสร้างสารพิษ
ประเภทของการทำความสะอาด
- แบบเปียก(Wet Cleaning)
- แบบแห้ง (Dry Cleaning)
การซ่อมบำรุงและสุขาภิบาลโรงงาน
1 การทำความสะอาดแบบแห้ง (Dry Cleaning)
- การทำความสะอาดแบบแห้ง (ไม่ใช้น้ำชะล้าง)
- การใช้อุปกรณ์กวาดสิ่งสกปรกออกไปก่อน สิ่งสกปรกที่ตกค้างขนาดเล็ก อาจใช้แปรงหรือเครื่องดูดออก และเช็ดคราบติด ค้าง
- มักใช้กับผลิตภัณฑ์ แป้ง ข้าวธัญพืช ของแห้งเป็นต้น
2 การทำความสะอาดแบบเปียก (Wet Cleaning)
มี 3 ขั้นตอน
- ทำให้พื้นผิวเปียก(Pre-Rinse)
- ทำความสะอาดด้วยสารทำความสะอาด/สารซักล้าง(Detergent Cleaning)
- ล้างสารทำความสะอาดออก(Post-Rinse)
การฆ่าเชื้อ Sanitizing
การฆ่าเชื้อ (Sanitizing) หมายถึง กระบวนการทำลายจุนทรีย์ที่ทำให้เกิดโรคที่ปนเปื้อนอยู่บนเครื่องมือ/อุปกรณ์ต่างๆ ที่ ผ่านการทำความสะอาดแล้ว โดยใช้สารเคมีที่เหมาะสมกับอุปกรณ์ที่จะฆ่าเชื้อ
การฆ่าเชื้อ(Sanitizing)
กระบวนการกำจัดจุลินทรีย์ โดยเฉพาะจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรค
- กระทำหลังการทำความสะอาด(Cleaning)
- อาจใช้สารเคมี เช่น Chlorine,Quaternary ammonium
Compounds,Alcohols
- อาจใช้ความร้อน(น้ำร้อน,ไอน้ำ)
วิธีการทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อ
- CIP (Clean in place) ทำความสะอาดแบบปิดในระบบท่อ ชะล้างและฆ่าเชื้อโดยความเร็วในการไหลของน้ำและน้ำยา
- COP(Clean Out of Place)ทำความสะอาดแบบเปิด (ถอดแยก ชิ้นส่วน อุปกรณ์/เครื่องจักร) แล้วนำมาชะล้างและฆ่าเชื้อ
วิธีการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ
CIP (Clean In Place) ตัวอย่าง ขั้นตอนการ cipดังนี้
1.Cip ด้วยน้ำร้อน กำจัดคราบไขมันเบื้องต้น เพื่อให้การทำความสะอาดขั้นถัดไปมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2.cip ด้วยด่าง NaOH ที่มีความเข้มข้นไม่ต่ำกว่า 1.5% เพื่อกำจัดคราบไขมัน โปรตีน และน้ำตาล
3.cip ด้วยน้ำร้อน เพื่อไล่ด่าง
4.cip ด้วยกรด HNO3ที่มีความเข้มข้นไม่ต้ำกว่า 1.5%เพื่อกำจัดสารจำพวกคราบตะกรัน
5.cip ด้วยน้ำร้อน เพื่อไล่กรด ไม่ให้มีสารตกค้าง
การตรวจสอบ และทวนสอบ
การทำความสะอาด
1.ตรวจสอบด้วยสายตา
2.สัมผัสด้วยมือ
3.เช็ดด้วยกระดาษชำระ สีขาวบนผิวสแตนเลส
4.ไม่มีกลิ่นผิดปกติ
5.ตรวจสอบจำนวนเชื้อจุลินทรีย์
สรุปภาพรวมกระบวนการ
ทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อ
1.การกำจัดเศษอาหาร คราบ ออก(Pre-Clean)
2.การทำความสะอาด (Main Clean)
3.ล้างด้วยน้ำ (Intermediate Rinse)
4.การฆ่าเชื้อ (Sanitizing)
5.การล้างด้วยน้ำสุดท้าย (Final Rinse)
6.การทำให้แห้ง (Drying)
ทำความสะอาดเครื่องจักร อุปกรณ์หลังใช้งาน
ทำความสะอาดพื้นทุกครั้งหลักเลิกงาน
แมลงและสัตว์นำโรคหลายชนิดก่อความรำคาญและเป็นพาหะนำโรครวมทั้งเป็นปัญหาต่ออุตสาหกรรมอาหารอย่างมาก ได้แก่
1.หนู
2.แมลงวัน แมลงหวี่
3.แมลงสาบ
5.จิ้งจก
6.นก
7.สุนัข แมว
3 มาตรการป้องกันและกำจัดแมลงและสัตว์นำโรค
- กำจัดแหล่งซุกซ่อน
- กำจัดเศษอาหาร ขยะมูลฝอย
-กรงดัก(ควรเปิดตรวจเช็คด้วย)
การใช้สารเคมีในการกำจัดแมลงและสัตว์นำโรค
ใช้สารเคมีที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่มีอำนาจ
เช่น อย. กรมปศุสัตว์
ควรตรวจติดตามประสิทธิผลของระบบการสุขาภิบาล เป็นระยะๆ อย่างสม่ำเสมอ เช่น
1. ตรวจประเมิน
2. การตรวจสอบก่อนการปฏิบัติงาน
3. การสุ่มตรวจจำนวนเชื้อจุลินทรีย์จากสิ่งแวดล้อมและพื้นผิวสัมผัสกับอาหารเช่น อุปกรณ์ และมือพนักงาน เป็นต้น